วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553

ตำนานบทใหม่ในต่างแดน 2




อีกเครื่องที่ผมถอยมาก็คือ DAC ของ Musical Fidelity X-DAC อันโด่งดัง เป็น external DAC ที่รุปร่างทรงกระบอกสวยงาม แต่ฟังแล้วก็งั้นๆไม่เห็นต่างอะไร (สงสัยลำโพงห่วยเลยฟังไม่ออก)
แต่วันดีคืนดี มันเสียงพร่าซะงั้น เพื่อนร่วมบ้า่นก็บอกว่าจริงว่ะเสียงพร่า

ก็เลยเอาไปที่ โรงงานของ Musical Fidelity เพื่อซ่อม ย้ำ โรงงา่นนะครับไม่ใช่ร้าน ตอนแรกก็ต้องรับขับสู้อย่างดี ให้ไปนั่งรอที่ห้องอ้างอิงที่เล่นด้วย แอมพ์ Monoblock ตัวมหึมาขับลำโพง KEF Ref107 โอ้วพระเจ้าเสียงถึงอกถึงใจอย่างที่สุด แต่ผ่านไปซักพัก เจ้าหน้าที่เดินกลับมาบอก ไม่เห็นเป็นไรนี่? ลองดูซิ เอไม่เป็นไรแฮะ ไม่เป็นไร ก็ไม่เป็นไร เค้าคงไม่เจอ

พอกลับไปบ้านฟังไปฟังมา ออกอาการอีกแล้ว คราวนี้เอากลับไปอีก มันบอกมาอีกแล้ว หูฝาดรึเปล่า เฮ้ย 4 หูเลยนะเว้ย

ทะเลาะกันนาน หลายสัปดาห์ เราจะไม่เอาเครื่องแล้ว ขอเงินคืน ค่าเสียเวลา มันก็บอกว่า มันก็ไม่อยากได้เราเป็นลูกค้า จริงๆนะครับ บริษัทห่านั้นมันบอกว่า มันไม่สนใจเรามีคนชอบมันอีกหลายคน มันรักเฉพาะลูกค้าที่รักมัน เหมือนนักการเมืองบางคนจริงๆพับพ่า

ความสัมพันธ์ระหว่าง Musical Fidelity ขาดสะบั้นลง ไปตายที่ไหนก็ไปเหอะบริษัทนี้
ว่าแล้วก็เรียนจบผมอัปเปหิเครื่อง X-A1 ออกไปในราคาถูกแสนถูก เพราะเกลียดมัน!!!!! (นึกๆดูเก็บไว้ก็ไม่เป็นไรนี่หว่า)

กลับมาเมืองไทย เครื่องเสียงเรา Oxide ขึ้น Cambridge เจ๊งเพราะไม่มีใครเล่นเลย ดับถาวร amp จมกองฝุ่น ไม่เป็นไรเราเอาของหลายๆอย่างกลับมาจาก UK
ตอนนั้น (1999) system เป็นดังนี้

Sony CDP900E+ Tas Angela+VTL 55w+Kelly สลับกับ ProAc

มีชุด Surround มาดูหนังเพิ่มด้วยเพราะเงินที่ขายของหลายๆอย่างก่อนกลับบ้าน รวมถึงแอมพ์ X-A1 ด้วย ก็คือ
ลำโพง Mission 771 และ Center +Surround Processor Yamaha 492
เอามาเล่นกับ Tas Monoblock และ Sub Cerwin ได้ลงตัวเหมือนกัน ยังใช้อยู่ถึงวันนี้ที่บ้านพ่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น